สิ่งที่ต้องเตรียมตัวเพื่อจะไปเรียนต่อในต่างประเทศ

สิ่งแรกคุณต้องแน่ใจก่อนว่าคุณรู้แล้วว่าคุณต้องขึ้นและลงที่สนามบินใด เนื่องจากในต่างประเทศก็มีสนามบินนานาชาติหลายแห่งทั่วทั้งประเทศ นอกจากนี้คุณยังต้องแน่ใจว่าหลังจากลงเครื่องแล้วคุณจะต้องไปที่ใดและไปเวลาใด ส่วนนี่คือตัวช่วยที่จะช่วยคุณได้ในเรื่องนี้

• • มหาวิทยาลัยหลายๆ แห่งมีบริการ Meet&Greet โดยที่มหาวิทยาลัยจะทำการส่งคนมารับคุณที่สนามบิน ดังนั้นคุณควรเช็คกับมหาวิทยาลัยที่คุณจะไปเรียนต่อเพื่อจองบริการนี้ก่อนถ้ามหาวิทยาลัยนั้นมีให้บริการ
  • คุณสามารถเรียกใช้บริการแท็กซี่ในต่างประเทศได้ได้ แต่ต้องอย่าลืมว่าค่าบริการในต่างประเทศจะแพงมาก
  • คุณสามารถใช้บริการรถบัสหรือรถสาธารณะที่เชื่อมต่อกับสนามบินได้ โดยสำหรับบริการของรถบัสของเมืองจะให้บริการคุณทุกวัน คุณสามารถเช็คตารางเดินรถได้ที่เว็บไซต์หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่สนามบิน  นอกจากนี้ก็ยังมีรถบัสแบบ EasyBus ที่ให้บริการจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองได้เช่นกัน

นักเรียนส่วนใหญ่ที่ไปเรียนต่อมักจะเลือกพักที่หอพักของมหาวิทยาลัยได้จัดไว้ให้ เพราะค่าสิ่งอำนวยความสะดวกที่นี่มีราคาถูกที่สุด แต่อย่างไรก็ตามคุณก็สามารถเช็คค่าบริการเหล่านี้ได้เองที่เว็บไซต์โดยเฉพาะ เว็ปไซต์ที่ให้บริการเพื่อนักเรียนต่างชาติ เช่น Foreign students หรือ Accommodation for students นอกจากนี้ ถ้าคุณลองเข้าไปอ่านในเว็บไซต์ต่างๆเพื่ออ่านบทความน่าสนใจเพื่อที่จำด้ทราบข้อมูลเพิ่มเติมในเรื่องนี้ ก็จะเป็นสิ่งที่ช่วยคุณได้มาก

นี่ถือว่าเป็นสิ่งจำเป็นมากๆ ในการที่คุณจะต้องพูดคุยกับผู้จัดการธนาคาร  เพราะคุณต้องการที่จะจัดการในเรื่องของการแลกเปลี่ยนเงิน การขออนุมัติใช้บัตรเดบิตในต่างประเทศ หรือแม้แต่การที่พ่อแม่ของคุณจะส่งเงินให้ไปให้คุณใช้ได้เพียงพอในช่วงสัปดาห์แรกๆ

ก่อนจะออกเดินทางไปเรียนต่อ คุณควรไปพบแพทย์เพื่อนตรวจเช็คสุขภาพและขอใบรับรองแพทย์ที่ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาส่วนตัวของคุณ เช่น โรคประจำตัว หรือ อาการแพ้ยา หรือแพ้อาหารต่างๆ  เพื่อนำติดตัวไปยังต่างประเทศด้วย  เนื่องจากยาบางอย่างคุณจำเป็นต้องใช้ นั้นต้องมีใบรับรองแพทย์ถึงจะสามารถซื้อได้  นอกจากนี้คุณยังจะต้องเข้าตรวจร่างกายและฉีดวัคซีนตามข้อกำหนดต่างๆ ก่อนเข้าประเทศนั้นๆ เช่น  วัคซีนป้องกันโรคเยื่อหุ้มสมองอักเสบ วัคซีนป้องกันโรคคางทูม เป็นต้น และทันทีที่คูนไปถึงคุณควรที่จะต้องไปลงทะเบียน ณ ศูนย์บริการด้านสุขภาพ  เพื่อให้คุณมีสิทธิให้การได้รับการรักษาพยาบาลฟรี ระหว่างที่คุณได้ทำการศึกษาอยู่ที่ต่างประเทศ

พึงระลึกไว้เสมอว่าคุณควรจะนำเฉพาะเสื้อผ้า สิ่งของที่จำเป็นกับคุณเท่านั้น เพราะอากาศในต่างประเทศนั้นคาดเดาได้ยาก และไม่ใช่เรื่องที่ฉลาดนักที่คุณจะใช้จ่ายเงินฟุ่มเฟือยไปกับการซื้อเสื้อโค้ทหรือร่มทั้งๆ ที่คุณเพิ่งไปถึงได้แค่สัปดาห์แรก  โดยสิ่งจำเป็นที่คุณควรนำติดตัวไปด้วย มีดังนี้

• เสื้อโค้ทกันหนาวที่อบอุ่นเพียงพอ เสื้อไหมพรมหรือขนสัตว์ที่กันน้ำได้และให้ความอบอุ่น รวมไปถึงไม้แขวนเสื้อ นาฬิกาปลุก ไฟฉายและกล้องถ่ายรูป
• ผ้าปูที่นอนและอุปกรณ์ทำอาหารเช่น หม้อและอุปกรณ์สำหรับทานอาหาร ถึงแม้ของพวกนี้จะสามารถหาซื้อได้โดยทั่วไป แต่ก็เป็นสิ่งที่ดี ถ้าจะลดค่าใช้ส่วนนี้ลงไปได้จ่ายลงไปได้ (แต่ก็ควรจะเช็คก่อนว่าที่หอพักที่คุณจะไปอยู่มีของพวกนี้เตรียมไว้ให้หรือไม่)
• ปลั๊กไฟที่เหมาะกับอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าของคุณ โดยไฟฟ้าที่ใช้ในต่างประเทศนั้นส่วนใหญ่แรงดันไฟจะอยู่ที่ 220/240 โวลต์ 50 เฮิร์ทซ์ และปลั๊กส่วนใหญ่จะเป็นแบบสามขา ดันนั้นถ้าอุปกรณ์ของคุณไม่สามารถใช้ปลั๊ก 3 ขาได้คุณตรวจเตรียมหัวแปลงไฟไว้ด้วยเผื่อฉุกเฉิน
• รูปถ่ายขนาดเดียวกับรูปพาสปอร์ต เพราะคุณอาจจะจำเป็นที่จะต้องใช้ในการทำบัตรประจำตัวหรือใช้ในเอกสารอื่นๆได้
• กระเป๋า คุณควรที่จะต้องเช็คกับสายการบินที่คุณจะบินไปก่อนว่าคุณสามารถหิ้วกระเป๋าไปขึ้นเครื่องได้กี่กิโลกรัม เพราะส่วนใหญ่แล้วนักเรียนส่วนใหญ่มักจะพกสัมภาระไปเยอะเกินความจำเป็น ดังนั้นการจัดกระเป๋าอย่างพอเหมาะก็จะสามารถหลีกเลี่ยงความวุ่นวายสับสนที่สนามบินได้

คุณควรเก็บเอกสารสำคัญต่างๆ ให้สามารถหยิบออกมาได้สะดวก เพราะเมื่อคุณไปถึงที่สนามบิน ศุลกากรอาจจะขอดูเอกสารต่างๆของคุณ ดังนั้นคุณต้องมั่นใจว่าคุณพกพาสปอร์ต, ใบรับรองจากมหาวิทยาลัย และหลักฐานที่อยู่ของตัวคุณเองติดตัวอยู่ตลอดเวลา

ถึงแม้ว่าการได้เข้าเรียนในต่างประเทศ คุณจะได้รับการรักษาพยาบาลเป็นอย่างดีก็ตาม แต่คุณก็ควรจะเช็คเผื่อความสบายใจว่าประกันใดที่เหมาะสมกับคุณ เพราะบริษัทประกันบางบริษัทสามารถให้การรักษาคุณครอบคลุมไปถึงทรัพย์สินและการเดินทางไปในที่ต่างๆอีกด้วย

เมื่ออ่านมาจนถึงตอนนี้ คุณก็คงพร้อมที่จะเตรียมตัวเดินทางแล้ว  แต่จงอย่าลืมที่จะหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการใช้ชีวิตและวัฒนธรรมต่างๆในประเทศที่คุณจะไปเรียนต่อด้วย  เพราะนักเรียนหลายๆคนมักจะไม่สนใจและ ทำให้พวกเขาต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ยากลำบากที่เรียกว่า Culture shock จึงเป็นเรื่องจำเป็นที่คุณจะต้องรู้จักกับบ้านใหม่ และสภาพแวดล้อมใหม่ๆของคุณ และทำให้มันเป็นประสบการณ์การเรียนต่อที่ดีในชีวิต

• คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการจัดเรื่องการค่าใช้จ่ายต่างๆ พร้อมทั้งศึกษาคำแนะนำต่างๆเกี่ยวกับวิธีใช้ชีวิตในประเทศที่คุณจะไปเรียนต่อ
• คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับมหาวิทยาลัยที่คุณจะไปอยู่ให้ดีเช่นมีโรงอาหารอยู่ไหน ที่เรียนของคุณอยู่ตรงส่วนไหนเป็นต้น
• คุณควรหาข้อมูลเกี่ยวกับการให้บริการสุขภาพ และเรื่องการรักษาพยาบาลแก่นักเรียนในประเทศที่คุณจะไปเรียนต่อ
• คุณควรหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับงานต่างๆ ที่นักเรียนสามารถทำได้ระหว่างเรียน ในประเทศที่คุณกำลังจะไป และต้องแน่ใจว่าคุณสามารถเตรียมเอกสารสำหรับงานนั้นไปด้วย ถ้าคุณต้องการจะทำงานไปด้วยในขณะเรียน