ศศิกาณจน์ คงศรีเจริญ (น้องจินจิน) MSc Sustainable Architecture Studies – University of Sheffield

Name : ศศิกาณจน์ คงศรีเจริญ (น้องจินจิน)
Programme : MSc Sustainable Architecture Studies
University : University of Sheffield

1. แนะนำตัวคร่าวๆหน่อยค่า

- สวัสดีค่ะ ชื่อจินจินค่ะ เป็นนักเรียนปริญญาโทสาขาสถาปัตยกรรม ตอนนี้กำลังศึกษาอยู่ที่ The University of Sheffield เมืองเชฟฟิลด์ ประเทศอังกฤษค่ะ

2. ทำไมถึงเลือกเรียน MSc Sustainable Architecture Studies ที่ University of Sheffield เหรอคะ?

- จินได้รับทุนให้ศึกษาหลักสูตรสถาปัตยกรรมค่ะ แล้วตอนปริญญาตรีจินก็ได้เรียนพื้นฐานการออกแบบและการก่อสร้างมาแล้ว พอมีโอกาสเรียนต่อปริญญาโทเลยสนใจต่อยอดในด้านอื่นนอกเหนือจากการออกแบบดูบ้าง แล้วมหาวิทยาลัยที่อังกฤษเองก็ตอบโจทย์มาก ๆ ด้วยความที่มีหลักสูตรเฉพาะทางที่หลากหลาย จินลังเลอยู่นานเลยค่ะ 55555 แต่สุดท้ายจินเลือกหลักสูตร MSc Sustainable Architecture Studies เพราะในปัจจุบันปัญหาภาวะโลกรวน ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ นั้นร้ายแรงขึ้นมาก และอาคารสิ่งก่อสร้างเองก็เป็นส่วนสำคัญต่อปัญหานี้ ในอนาคต Policy ระดับประเทศและระดับสากลเองก็ถูกขับเคลื่อนไปในทางนี้มากขึ้นค่ะ ดังนั้นสถาปัตยกรรมยั่งยืน (หรือที่หลาย ๆ คนรู้จักในชื่ออาคารเขียว หรืออาคารอนุรักษ์พลังงาน) จึงเป็นสิ่งที่จินคิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อตัวเองและสังคมค่ะ
ส่วนเหตุผลที่เลือกเรียนที่ The University of Sheffield หลัก ๆ เลยเพราะ Ranking ด้านสถาปัตยกรรมค่ะ ซึ่งถือเป็นอันดับต้น ๆ ของสหราชอาณาจักรเลย และ The University of Sheffield เองก็เป็นที่ที่มี Ranking สูงที่สุดในบรรดามหาวิทยาลัยที่มีหลักสูตรด้าน Sustainable Architecture ด้วย อีกเหตุผลคือมหาวิทยาลัยติดต่อสื่อสารกับนักเรียนอยู่ตลอด ๆ ตัวแทนแนะนำมหาวิทยาลัยก็ช่วยเหลือดีมาก ๆ เลยประทับใจมาก ๆ เลยค่ะ
ปล. แอบแถมความประทับใจอีกอย่าง ตึกเรียนหลักของหลักสูตรสถาปัตยกรรมสวยมาก ๆ ค่ะ เป็นตึกสูง เห็นวิวเมือง ข้าง ๆ ตึกก็เป็นห้องสมุดกับสวนสาธารณะ ตอนจินเข้ามาตึกเรียนครั้งแรกคือตาโตเป็นไข่ห่านเลยค่ะ 55555

3. คอร์สที่ไปเรียนเป็นยังไงบ้าง? เช่น เพื่อนส่วนใหญ่เป็นคนชาติอะไร, มีนักเรียน ปีนี้กี่คน, เด็กไทยเยอะมั้ย, เรียนหรือสอบยากมั้ย ฯลฯ

- ขอลำดับเป็นหลักสูตร, คลาสเมท, อื่น ๆ นะคะ
หลักสูตร: ทุกคน (รวมถึงตัวเอง) พูดเป็นเสียงเดียวกันว่าเหมือนจินมาเรียนวิศวะ/วิทยาศาสตร์มากกว่าสถาปัตย์ค่ะ 55555555 การเรียนที่นี่จะค่อนข้างยากและเข้มข้น บางวิชาหากไม่มีพื้นฐานวิทยาศาสตร์ (หรือถ้าเป็นที่ไทยคือเรียนสายวิทย์-คณิตมา) จะค่อนข้างทำความเข้าใจยากค่ะ (บางคอร์สจะต้องเรียนร่วมกับนักเรียนวิศวะด้วยค่ะ) ที่นี่จะแบ่งออกเป็น 3 เทอม จะเป็น เลคเชอร์กับสตูดิโอ (สตูดิโอจะเรียนเทอมละตัว) ซึ่ง 90% เป็น On-site ค่ะ เทอมแรก (Autumn) จินเรียน 5 ตัว (รวมธีสิส) เทอมนี้จะเน้นวิชาพื้นฐาน ส่วนเทอมสอง (Spring) เรียน 4 ตัว (รวมธีสิส) หนึ่งในนี้เป็นวิชาเลือกค่ะ ส่วนเทอมสุดท้ายจะเป็นช่วง Summer จะไม่มีวิชาเรียนแล้วแต่จะให้ทำธีสิสอย่างเดียวค่ะ
คอร์สนี้จะไม่มีสอบนะคะ คะแนนจะมาจาก Assignment เป็นหลัก มีทั้งงานเดี่ยว และวิชาสตูดิโอจะเป็นงานกลุ่มค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่บุญกรรมว่าจะโดนสุ่มไปอยู่กับใคร 55555 งานกลุ่มถ้าได้เจอคนที่รับผิดชอบและเข้ากันได้ก็จะดีมากเลยค่ะ และงานกลุ่มนี้เองจะเป็นตัวแปรสำคัญที่ทำให้เรารู้จักกับเพื่อน ๆ ในคลาสเลยค่ะ
คลาสเมท: หลักสูตรที่จินเรียนมีทั้งหมดประมาณ 35 คนค่ะ ซึ่งเกือบ 2 ใน 3 เป็นนักเรียนจีนค่ะ ที่นี่ (และอีกหลาย ๆ มหาวิทยาลัยในอังกฤษ) นักเรียนจีนจะเยอะมาก ๆ เลยค่ะ หากใครพูดจีนได้ หรือมีโอกาสเรียนภาษาจีนก่อนไปจะดีมากเลยค่ะ จะได้เพิ่มโอกาสในการหาเพื่อนด้วย 😊 รองลงมาเป็นนักเรียนจากอินเดียค่ะ (แต่เพิ่งมารู้ตอนหลังว่าหลาย ๆ คนก็ไม่ได้เบสที่อินเดียนะคะ มาจากดูไบบ้าง กาตาร์บ้าง) มีประมาณ 7 คน นอกจากนั้นก็มีนักเรียนจาก เปรู ตุรกี อัลเบเนีย ไต้หวัน มัลดีฟ บอตสวาน่า ประเทศละ 1 คน มีนักเรียนคนอังกฤษแค่คนเดียวค่ะ แต่เป็นนักเรียนพาร์ททามทำให้ไม่ค่อยได้เจอกันเท่าไหร่ และจินเองก็เป็นนักเรียนคนเดียวที่มาจากไทยค่ะ
Tips ด้วยความที่นักเรียนจีนเค้ามากันเยอะ โดยปกติเค้าจะเกาะกลุ่มและไม่ค่อยคุยกับนักเรียนชาติอื่น ๆ ค่ะ (เท่าที่ถามมาเค้าบอกว่าเค้าไม่มั่นใจในภาษาอังกฤษ เลยกลัวที่จะต้องคุยกับคนต่างชาติค่ะ อย่าโกรธเค้าเลยเนอะ) ดังนั้นหากเราจะคุยกับเค้าให้ค่อย ๆ Make friend ทีละคนสองคนค่ะ แล้วพอเราเริ่มคุยกับเพื่อนคนจีนกลุ่มเล็ก ๆ ได้แล้ว คนจีนคนอื่น ๆ พอเค้าเห็นว่าเราเข้ากับคนจีนได้ เค้าก็จะเริ่มกล้าคุยกับเรามากขึ้นเองค่ะ 5555555 ส่วนคนอินเดียจะยิ้มแย้มเป็นมิตรมาก ๆ เลยค่ะ เพื่อนคนแรก ๆ ของจินก็เป็นคนอินเดียค่ะ เค้ายินดีช่วยเหลือเราเรื่องภาษามาก ๆ ด้วยค่ะ หากเราฟังเค้าไม่ทันเราก็ขอให้เค้าทวนให้ใหม่ได้ ดังนั้นไม่มีปัญหาเรื่องภาษาเลยค่ะ
อื่น ๆ: เท่าที่รู้มา นักเรียนไทยที่มาเรียนปริญญาโทสาขาสถาปัตยกรรมปีนี้มีแค่ 2 คนรวมจินค่ะ 55555 พี่อีกคนเรียนคนละคอร์สเลยไม่ได้เจอกันในเวลาเรียนเลย แรก ๆ จินกังวลมากเพราะไม่มีเพื่อนคนไทยเลย ภาษาก็ไม่ได้แข็งแรง แถมเป็นครั้งแรกที่มาเรียนมาอยู่ในสภาพแวดล้อมต่างชาติทั้งหมดอีก แต่ทำไปทำมาตอนหลังไม่รู้สึกแล้วค่ะ แถมเป็นการดีด้วย เพราะสภาพแวดล้อมจะบังคับให้เราได้ใช้ภาษา ยิ่งเราได้ใช้มาก ๆ เราก็ยิ่งพัฒนาค่ะ แล้วยิ่งพอเราเริ่มสนิทกับเพื่อนมากขึ้น บางทีพูดไม่ต้องจบประโยคก็เข้าใจกันแล้วค่ะ ถึงจะพูดภาษาแม่คนละภาษาก็ไม่อึดอัดเลย จินเคยมีเรื่องตลกเรื่องนึงคือจินจะคุยกับเพื่อนคนจีน แต่จินยังคิดอยู่ว่าจะพูดยังไงดี แต่เค้ามองหน้าจินเค้าก็รู้แล้วค่ะว่าจินจะพูดอะไรกับเค้า ทั้ง ๆ ที่เรื่องนั้นไม่ได้เกี่ยวอะไรกับบริบทการสนทนาตอนนั้นเลย 555555 เรียกได้ว่าอยู่ด้วยกันมาจนเริ่มอ่านใจกันออกแล้วค่ะ

4. บรรยากาศใน มหาวิทยาลัย รวมถึงเมือง เป็นยังไงบ้างคะ เหมือนที่เราคิดไว้รึเปล่า ?

- The University of Sheffield จะต่างจากมหาวิทยาลัยหลาย ๆ แห่งในไทยค่ะ ที่นี่อาคารเรียนจะแทรก ๆ ไปในเมืองแบบเนียน ๆ เลยค่ะ บางทีเดิน ๆ อยู่ในเมืองก็ อ้าว นี่ก็ตึกของยูหรอ 555555 แต่ภาพรวมมหาวิทยาลัยจะตั้งอยู่ใกล้ City centre ค่ะ จินไม่รู้จะบรรยายบรรยากาศยังไง แต่เพราะจินเรียนที่ไทยมาตลอดเลย ตอนมาเจอที่นี่ก็จะรู้สึกแนว ๆ ‘โอ้ นี่มันเหมือนกับที่เคยเห็นในหนังเลย’ เพราะหันไปทางไหนก็เจอแต่คนต่างชาติ ภาษาที่ไม่ใช่ภาษาแม่ นักเรียนแต่งตัวสบาย ๆ ไปเรียน Facility ดี ๆ รองรับมากมายทั้งห้องเรียน ห้องสมุด หรือพื้นที่กิจกรรม ประมาณนี้ค่ะ 😊
สิ่งที่ประทับใจมาก ๆ ต่อมหาวิทยาลัยคือเค้า Support นักเรียนดีมาก ๆ ค่ะ หากเป็นนักเรียนต่างชาติก็มีคอร์สภาษาให้ มี Academic skill class ให้ มี Mental health support และอื่น ๆ มากมายเลยค่ะ ตอนที่จินมาจินยังต้องกักตัวอยู่ และค่ากักตัวตอนนั้นค่อนข้างสูง มหาวิทยาลัยก็ Support ให้ทั้งหมดเลยค่ะ
- ในส่วนของเมือง เชฟฟิลด์เป็นเมืองที่ค่อนข้างเงียบนะคะ เอาตรง ๆ เลยคือเมืองไม่ได้เหมาะแก่การท่องเที่ยวช้อปปิ้งนัก หากเป็นสายเที่ยวสายช้อปอาจจะต้องไปเที่ยวเมืองข้าง ๆ อย่างแมนเชสเตอร์หรือลีดส์แทน แหล่งช้อปปิ้งหลัก ๆ จะอยู่ที่ห้าง Meadowhall ที่ต้องนั่ง Tram ออกไปประมาณ 20-30 นาทีค่ะ ใน City centre เองจะเป็นพวกร้านรวงเบสิค ๆ แต่เชฟฟิลด์เป็นเมืองที่เหมาะแก่การมาเรียนมาอยู่มาก ๆ เลยค่ะ อยู่สบาย อากาศดี (มาก ๆ) อาหารการกินหาไม่ยาก อยากได้อะไรก็เดินออกไปหาได้เลยค่ะ ร้านอาหารไทย จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ฯลฯ ครบ (ให้อารมณ์แบบ มีน้อย แต่มีนะ อร่อยด้วยค่ะ) ที่สำคัญเลยคือค่าครองชีพค่อนข้างถูกหากเทียบกับเมืองอื่น ๆ ค่ะ ผู้คนเป็นมิตรและค่อนข้างปลอดภัย แต่ด้วยความที่เป็นเมืองที่มีผับเยอะ หากไปเดินในย่านนั้นก็อาจจะมีโดนแกล้งทักทายเป็นภาษาจีนบ้างค่ะ 55555
Tips: เชฟฟิลด์มีภูมิประเทศเป็นเนินนะคะ ตอนแรกจินไม่รู้ มาวันแรกเดินจนปวดขาเลยค่ะ แต่อยู่ ๆ ไปก็จะชินเองค่ะ
Tips 2: แต่แน่นอนว่าไม่มีที่ไหนบนโลกนี้ปลอดภัย 100% จินเองก็เคยเจอโฮมเลสท่าทางไม่ปลอดภัย เคยได้ยินข่าวคนเอเชียโดนทำร้าย หรือแม้แต่เคยได้ยินมาว่าคลาสเมทของคนรู้จักโดนจี้ปล้นเหมือนกันค่ะ ดังนั้นก็ต้องระวังตัวเองมาก ๆ จริง ๆ ค่ะ

5. ตอนเรียน พักหอในหรือหอนอกคะ? ช่วยแชร์ประสบการณ์ให้ฟังหน่อยค่ะ

- ตอนนี้จินพักอยู่ที่หอนอกนะคะ ย่านที่จินอยู่จะอยู่ใกล้กับ West street ที่เป็นถนนใจกลางเมืองเส้นหนึ่งเลยค่ะ แถวนี้จะมีหอพักนักเรียนเยอะ คนจีนคนเอเชียพักอยู่เยอะ จินมารู้ตอนหลังว่าส่วนใหญ่ Native เค้าจะแชร์บ้านอยู่กันค่ะ ซึ่งจะอยู่แถบ Crookesmoor เป็นหลัก เคยไปแถวนั้นครั้งนึง โอ้โห ไม่เจอคนเอเชียเลยค่ะ 5555555 จินเป็นพวกบ้าวิวค่ะ เลยเลือกอยู่ชั้นสูงสุดของหอเลย ค่าหอก็จะสูงกว่าชั้นล่าง ๆ ลงมาพอสมควร แต่ในความรู้สึกจินคือคุ้มมาก เพราะเชฟฟิลด์เป็นเมืองที่เป็นภูเขา ๆ ดังนั้นสิ่งแรกที่เห็นตอนตื่นจะเป็นวิวเมืองสวย ๆ เลยค่ะ ส่วนตอนปิดไฟนอน ก็จะมองเห็นวิวแสงไฟในเมืองกับท้องฟ้ามืด ๆ บางเทศกาลเช่นปีใหม่หรือตรุษจีนที่เค้าจุดพลุกัน เราลากเก้าอี้มานั่งชมพลุสบาย ๆ เลยค่ะ คุ้มมาก ๆ 5555555 และพออยู่ในย่านกลางเมือง เวลาออกไปซื้อของก็จะสะดวกค่ะ เดินไม่ไกล เวลาเดินไปเรียนก็สะดวกดีค่ะ (แต่ก็ต้องเดินขึ้นลงเนินอยู่ดีนะคะ 55555)
Tips: ไม่รู้เรียก Tips ได้มั้ย แต่เพราะว่าห้องที่จินอยู่ราคาสูงกว่าห้องประเภทเดียวกัน (Ensuite) ในชั้นอื่น ๆ เยอะพอสมควร ทำให้ไม่มีคนอยู่ด้วยเลยค่ะ กลายเป็นว่าจินได้ใช้ห้องครัวใหญ่คนเดียวเลย 5555555 โชคดีอีกอย่างคือหอจินเป็นหอสร้างใหม่ค่ะ ทำให้จินได้ใช้ทุกอย่างเป็นคนแรก ๆ เลย ดีมากเลยค่ะ 55555 ตอนหลังมีแฟลตเมทย้ายเข้ามาใหม่ 1 คนถ้วน เวลาจินยุ่ง ๆ ไม่มีเวลาทำอาหาร ก็ได้แฟลตเมทช่วยทำขนมทำอาหารให้เนี่ยแหละค่ะ
ถ้าให้แนะนำ เวลาเลือกหอพัก ให้เลือกย่านที่ปลอดภัย ใกล้ร้านรวง เดินทางสะดวก และเวลาเลือกห้องพัก พยายามเลี่ยงห้องที่อยู่ติดประตูหลักหรือประตูครัวเพื่อที่จะเลี่ยงเสียงเปิดปิดประตูเวลาคนอื่นเดินเข้าออก หากอยู่ใกล้ลิฟต์ ห้องซักผ้า ห้องทิ้งขยะ ก็จะสะดวกมาก (เวลาอากาศหนาว ถ้าต้องเดินไกล ๆ เอาผ้าไปซักคงไม่สนุกเท่าไหร่ค่ะ 5555) อย่าลืมศึกษาทางหนีทีไล่กรณีเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันด้วยนะคะ ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่หากเราป้องกันตัวเองไว้ก็จะดีที่สุดค่ะ

6. ช่วยเล่าสิ่งที่ประทับใจกับ พี่ๆ NC World Education Links ให้ฟังหน่อยได้ไหมคะ?

- จินเลือกสมัครเรียนผ่าน NC World Education Links เพราะจินเรียนที่ New Cambridge อยู่แล้ว และออฟฟิศเดิมจินอยู่ที่เซ็นทรัลเวิลด์ ทำให้สะดวกในการติดต่อพี่ ๆ มากเลยค่ะ มีแค่ช่วงเดียวที่ติดต่อลำบากเนื่องจากพี่คนเดิมที่ดูแลจินย้ายไป และช่วงนั้นติดล็อคดาวน์ต่าง ๆ เลยติดต่อผ่านทางเจ้าหน้าที่มหาวิทยาลัยโดยตรงเอง แต่พอสถานการณ์ดีขึ้นก็มีพี่จาก NC คนใหม่เข้ามาดูแล ซึ่งช่วงนั้นเป็นช่วงที่มหาวิทยาลัยออก CAS ให้พอดี เลยได้ติดต่อประสานงานเรื่องวีซ่าพอดีเลยค่ะ พี่ ๆ ช่วยได้เยอะมาก เพราะตอนนั้นจินไม่รู้เรื่องวีซ่าเลยค่ะ ใหม่กับเรื่องนี้มาก ๆ ได้พี่ ๆ ช่วยทุกอย่างตั้งแต่เรียงเอกสารสมัครยันติดตามผลการยื่นวีซ่าเลยค่ะ แถมจินได้รู้จักกับน้องคนไทยอีกคนที่สมัครผ่าน NC World Education Links ด้วย เลยมีเพื่อนพูดคุยปรึกษากันตั้งแต่ก่อนเดินทางเลย
สุดท้ายนี้จินอยากฝากไว้ว่าการมาเรียนที่ต่างประเทศไม่ว่าจะประเทศไหน นอกจากความรู้ที่เราจะได้รับจากในห้องเรียนแล้ว ทักษะที่พัฒนาอย่างมากเลยคือทักษะการใช้ชีวิตและทักษะด้านภาษาค่ะ นอกจากนั้นยังได้มิตรภาพดี ๆ ทั้งจากเพื่อนคนไทยด้วยกันและเพื่อนชาวต่างชาติด้วย จินเชื่อว่าหนึ่งปีที่จินมีโอกาสมาเรียนที่นี่จะเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดในชีวิตเลยค่ะ ขอบคุณอาจารย์ทุกท่านที่ New Cambridge ความรู้ที่เรียนมายังได้ใช้จนถึงทุกวันนี้ และขอขอบคุณพี่ ๆ ทุกคนที่ NC World Education Links ที่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้จินได้มาเรียนที่นี่ได้อย่างราบรื่นด้วยนะคะ