การตัดสินใจที่จะเลือกเรียนต่อในสาขาอะไร เป็นปัญหาที่หนักใจนักเรียนไทยที่มีความต้องการจะไปเรียนต่อในต่างประเทศมาโดยตลอด แม้ในทุกวันนี้อะไรๆหลายๆอย่างได้พัฒนาและเจริญก้าวหน้าขึ้นไปมาก แต่ความจริงข้อหนึ่งที่ไม่อาจจะปฏิเสธได้ก็คือ ระบบการศึกษาของเรายังไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยต่อการพัฒนาของเด็กไทย และช่วยให้ค้นพบตัวเองเท่าใดนัก จึงทำให้พบว่าทุกๆปีมีเด็กที่ต้องตัดสินใจซิ่วออกจากมหาลัยออกเป็นจำนวนมาก
แต่ถ้าหากนักเรียนตัดสินใจไปเรียนต่อต่างประเทศแล้ว การซิ่วออกจากมหาลัยคงไม่ใช่ความคิดที่ดีแน่ๆ เพราะนอกจากจะต้องเสียเวลาไปเปล่าๆ และยังต้องเสียเงินไปอีกจำนวนมหาศาลอีกด้วย ดังนั้นก่อนที่เราจะเลือกตัดสินใจเลือกเรียนสาขาใดสาขาหนึ่ง จากหลักสูตรนับพันหลักสูตรทั่วโลกแล้วนั้นเราควรที่จะคิดและถามตัวเองให้แน่ใจเสียก่อนที่จะตัดสินใจ
1.ต้องรู้ว่าตัวเองถนัดอะไร และไม่ถนัดอะไร
แบ่งกระดาษออกเป็นสองส่วน ด้านหนึ่งเขียนสิ่งที่นักเรียนถนัดและทำได้ดี ทำแล้วมีคนชม วิชาไหนที่เรียนแล้วได้เกรดดีเรียนแล้วมีความสุข ส่วนอีกด้านหนึ่งให้เขียนสิ่งที่เราไม่ถนัดเราไม่ชอบ วิชาที่เราเรียนแล้วไม่เข้าใจเรียนแล้วไม่มีความสุข โดยพยายามเขียนออกมาให้เยอะที่สุด จากนั้นให้นักเรียนลองๆ ไปถามคนใกล้ชิดดูว่าเมื่อเค้านึกถึงตัวของนักเรียนแล้วพวกเขานึกถึงจุดเด่นและจุดด้อยในด้านไหนบ้าง ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เรารู้จักตัวเองในข้อดีและข้อเสียต่างๆมากขึ้น
2.ต้องรู้ว่าเรามีคุณสมบัติเด่นๆ อะไรบ้าง
เราทุกๆคนมีสิทธิ์ที่จะฝัน แต่ความฝันนั้นก็ควรตั้งอยู่บนพื้นฐานของความเป็นจริง เช่นนักเรียนบางคนอยากเป็นหมอมาก แต่เกรดชีวะ คณิตศาสตร์ ภาษาอังกฤษ แย่มากสอบตกแทบทุกเทอม แบบนี้นักเรียนอาจจะต้องกลับมาคิดว่าความฝันของเรามันโอเคกับชีวิตเราจริงๆไหม เราอาจจะต้องรองความฝันที่อยู่ในลำดับรองลงมา หรือถ้าเรารู้ตัวเองตั้งแต่แรก ว่าคุณสมบัติเรายังไม่พอ ก็ควรที่จะเรียนพิเศษหรือเรียนเสริม เพื่อหาทางพัฒนาตัวเองเพิ่มเติมเพื่อที่สามารถไปถึงเป้าหมายที่ฝันไว้ได้
หลายคนที่เพิ่งเริ่มเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย พอได้รับอิสระในการที่จะทำอะไรก็ได้ มันชอบคิดว่าเรียนๆ เล่นๆ ก็ได้ ใช้ชีวิตให้เต็มที่ จบมาก็หางานทำได้เหมือนกัน พอเรียนจบมาเกิดอยากไปเรียนต่อต่างประเทศขึ้นมา คุณสมบัติในข้อต่างๆก็ผ่านหมด แต่มีปัญหาตรงเกรดที่ต่ำเตี้ยเรี่ยดินจึงทำให้ไม่ผ่านเกณฑ์ ทาง NC World Education Links จึงอยากขอแนะนำว่าถ้าหากไม่ลำบากจนเกินไป จะตั้งใจเรียนเผื่อให้เกรดออกมาดีๆบ้างก็น่าจะไม่เสียหายอะไร
3.ต้องรู้ว่าเราสนใจอะไร
ในทางจิตวิทยานั้นมีงานวิจัยชึ้นหนึ่งเผยว่า ความสนใจและงานอดิเรกเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยประกอบกันเป็นบุคลิกและทัศนคติของคนๆ หนึ่ง กิจกรรมที่เราสมัครใจทำ และสนใจทำมาตลอดๆ จะเป็นส่วนสำคัญที่สามารถช่วยตัดสินใจในการเลือกสาขาที่นักเรียนจะศึกษาต่อ และยังช่วยทำนายถึงอาชีพในอนาคตได้เป็นอย่างดี ซึ่งในที่นี้สิ่งที่สนใจอาจไม่จำเป็นจะต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อหาทางวิชาการก็ได้ เช่น บางคนชอบเล่น VDO Game เป็นชีวิตจิตใจ ก็อาจจะโตไปเป็น Game artist ที่คอยช่วยพัฒนาเกมส์ชื่อดังในอานคตก็เป็นได้
4.ต้องรู้ว่าเราอยากจะทำอาชีพอะไรในอนาคต
ระดับการศึกษาที่สูงขึ้นมีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับความก้าวหน้าในอาชีพและการประกอปอาชีพในอนาคต หากนักเรียนมีเป้าหมายที่ชัดเจนแล้วว่าต้องการประกอบอาชีพอะไรแล้ว การเลือกสาขาวิชา ที่จะเรียนต่อก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป แต่ถ้ามีความสนใจในหลายสาชาอาชีพนักเรียนก็ควรต้องลงอหาข้อมูลมาประกอบการตัดสินใจให้มากๆ รวมถึงการพูดคุยกับผู้ที่มีประสพการณ์ทางด้านการแนะแนวการศึกษา ที่มีประสพการณ์ในด้านนี้โดยตรง เพื่อที่จะนำข้อมูลมาประกอปการตัดสินใจ หรือนักเรียนบางคนอาจจะมีธุรกิจครอบครัวที่ต้องมารับช่วงต่ออยู่แล้ว ก็ควรที่จะเลือกเรียนสาขาหรือหลักสูตรที่สามารถนำความรู้มาประยุกต์ใช้เพื่อพัฒนาธุรกิจครอบครัวของตัวเองได้
5.ต้องรู้ว่าจะมีงานอะไรที่กำลังจะมาแรงในอนาคต
เราทุกคนถูกสอนมาเสมอว่าให้เรียนให้ได้เกรดดีๆ ตั้งใจเรียนให้เก่งๆ จบแล้วจะได้ทำงานดีๆ แต่ว่างานดีๆ ที่พูดถึงนั้นคืองานอะไร ? หลายๆคนไม่สามารถตัดสินใจเลือกสาขาวิชาที่จะเรียนต่อได้ เพราะมองไม่ออกว่าในอนาคตถ้าเรียนจบไปแล้วจะสามารถทำงานอไรได้บ้าง อย่างเช่นสาขาวิชาการโฆษณา นักเรียนส่วนใหญ่ที่เรียนต่อก็จะนึกถึงแต่อาชีพครีเอทีฟ แต่จริงงานในสายครีเอทีฟยังแบ่งได้เป็น Copywriter กับ Art director และในงานสายโฆษณาก็ยังมีหน้าทีต่างๆอีกมากมายเช่น AE Planner Media และอื่นๆอีกมากมาย เพราะฉะนั้นหากนักเรียนสนใจเรียนต่อในสาขาวิชาไหนแล้ว แต่ยังเกิดความลังเลยไม่แน่ใจเพราะไม่รู้ว่าจบไปแล้วจะทำงานอะไรได้บ้าง ควรลองศึกษาเพิ่มเติมอีกซักนิด แล้วจะพบว่าโลกนี้มีงานต่างๆที่นาสนใจอยู่อีกมากมาย